เพลงดังอย่าง Let it go เพลงหลักของเรื่องที่ร้องโดยตัวละคร "เอลซ่า" ตัวละครสำคัญของเรื่องนี้ ถูกแปลออกมาในภาษาต่างๆ ทั่วโลกกว่า 27 ภาษา โดยมีแฟนหนังผู้คลั่งไคล้ได้รวบรวมเอาแต่ละเวอร์ชั่นของประเทศต่างๆ มารวมเป็นคลิปให้ชมกันผ่าน Youtube ที่เจ๋งที่สุดคือมีการรวมเอาเพลงของแต่ละภาษามาเรียงร้อยเข้าด้วยกันจนเป็นเพลงเต็ม 1 เพลง ทำให้ Disney ได้ทำตัว official ออกมา จะมีภาษาอะไรบ้างนั้น ต้องไปฟังกันดูค่ะ
อ๊ะๆๆ... เราไม่ได้เอาเพลงมาให้ฟังกันเพื่อความเพลิดเพลินเฉยๆนะคะ อยากให้ตั้งใจฟังแล้วลองดูว่าแต่ละภาษานั้นมีการใช้เสียงอะไรบ้าง เรามีตัวเลือกให้ด้วยนะคะ เพราะนอกจากเราจะสวย และรวยมากแล้ว เรายังใจดีด้วย
ในเมื่ออาวุธพร้อม ตัวช่วยพร้อม จะรอช้าอยู่ใย
ไปฟังเพลงกันเลยค่าา สู้ๆนะคะ เจ๊ๆเป็นกำลังใจให้
จากที่ฟังมีภาษาอะไร? และแต่ละภาษานั้นมีการใช้เสียงอะไรบ้าง?
ตอบลบขอโทษนะค่ะ หนูตอบถูกไหมค่ะ
ตอบลบ1)จากที่ฟังมีภาษาอะไร?
1. English
2. French
3. German
4. Dutch
5. Mandarin
6. Swedish
7. Japanese
8. Latin American Spanish
9.Polish
10. Hungarian
11.Castilian Spanish
12.Catalan
13.Italian
14. Korean
15. Serbian
16. Cantonese
17. Portuguese
18 Bahasa Malaysia
19. Russian
20. Danish
21. Bulgarian
22. Norwegian
23. Thai
24. Canadian French
25. Flemish
2)และแต่ละภาษานั้นมีการใช้เสียงอะไรบ้าง?
แต่ละภาษานั้นก็จะมีการใช้เสียงที่แตกต่างกันไป คือ
1.เสียงระเบิด (Plosive sound) หรือเสียงกัก(stop sound) เสียงที่เกิดจากการที่เพดานอ่อนยกขึ้นแตะช่องคอ ทำให้กระแสลมเข้าสู่ช่องจมูกไม่ได้ จึงกักลมไว้ภายในปากหรือคอหอย พร้อมที่จะระเบิดออกมา
2.เสียงนาสิก (Nasal sound) เสียงที่เกิดจากการกักลม ณ จุดใดจุดหนึ่งในช่องปาก เมื่อลดระดับเพดานอ่อนลง กระแสลมจึงได้ผ่านเข้าทางช่องจมูกและออกทางจมูก
3.เสียงเสียดแทรก (Fricative sound) เกิดจากฐานกรณ์ที่ชิดกันมาก จึงทำให้เกิดช่องแคบระหว่างอวัยวะในการออกเสียงทั้งสอง และมีการเสียดสีกับฐานกรณ์
4.เสียงกักเสียดแทรก (Affricate sound) เป็นเสียงผสมระหว่างเสียงระเบิดและเสียงเสียดแทรก โดยกระแสลมจะหยุดไว้ชั่วครู่แล้วจึงค่อยๆเสียดแทรกออกมาทางปาก
5.เสียงข้างลิ้น (Lateral sound) การออกเสียงนี้คือโดยการเอาปลายลิ้นไปแตะกับปุ่มเหงือกปากเปิดเล็กน้อย แล้วปล่อยให้ลมผ่านออกมาด้านข้างใดข้างหนึ่งของลิ้น
6.เสียงกึ่งสระ (Simi-Vowel sound) เนื่องจากเสียงที่เกิดจากการที่อวัยวะออกเสียงเคลื่อนที่เข้าหากันพอสมควรจึงทำให้เกิดช่องว่างออกมาได้อย่างสะดวก